การเคหะฯจี้ลูกบ้านเอื้ออาทรหมื่นหน่วย เร่งโอน-ติดต่อสินเชื่อแบงก์หลังครบ 5 ปี ภายในสิ้นเดือนมีนาคม 2556 พบติดต่อกลับแค่ 30% ยอมรับ 70% มีปัญหาขาดสภาพคล่องค่าใช้จ่ายไม่พร้อม –ต่อเติมสิ่งปลูกสร้างผิดไปจากเดิมต้องนับหนึ่งทำสัญญากู้ใหม่ –ติดต่อลูกค้าไม่ได้
นางพรรณสุภา ยุทธภัณฑ์บริภาร รองผู้ว่าการ การเคหะแห่งชาติ(กคช.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการโอนกรรมสิทธิ์ลูกบ้านโครงการบ้านเอื้ออาทรครบ 5 ปี นับจากจองและอยู่อาศัยโดยการเคหะฯเป็นผู้ค้ำประกันในฐานะเจ้าของอาคาร อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมาการเคหะฯได้แจ้งให้รับทราบ และให้เดินทางมาโอนกรรมสิทธิ์ทั้งสิ้น 1 หมื่นหน่วยตั้งแต่ปลายปี 2555 ที่ผ่านมา ล่าสุดมีลูกค้าที่ติดต่อโอนเพียง 30%เท่านั้น ทำให้เป้าหมายที่ตั้งไว้ ไม่สามารถโอนได้ทั้งหมด
ได้ให้เวลาลูกค้ากลุ่มดังกล่าวจนถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2556 เท่านั้นแต่ก็ยังไม่เป็นไปตามเป้า เมื่อครบกำหนดระยะเวลา จากนั้นเดือนเมษายน 2556 จะพิจารณาว่าธนาคารที่ร่วมโครงการจะปล่อยกู้ให้กับลูกบ้านโครงการบ้านเอื้ออาทรโดยใช้แคมเปญอะไรบ้างที่จูงใจการโอน อาทิ ดอกเบี้ยต่ำๆฯลฯ"
สำหรับสาเหตุที่ทำให้การโอนกรรมสิทธิ์ของลูกบ้านที่อยู่มาครบ 5 ปีไม่เป็นไปตามเป้าหมายนั้นมีสาเหตุหลัก 3 ประการคือ
1. ภาวะค่าใช้จ่ายในการโอนของลูกค้าที่ไม่พร้อม
2. ในรายที่ต้องกู้เพิ่มเนื่องจากมีสิ่งปลูกสร้างเพิ่ม ต้องทำเรื่องกู้ใหม่ซึ่งทางธนาคารก็ต้องพิจารณาใหม่ ทำให้ลูกค้าสะดุด และ
3. ลูกค้าของการเคหะฯที่เป็นเจ้าของอาคาร ทั้งแนวราบ และอาคารชุด การเคหะฯไม่สามารถติดต่อลูกค้าไปตามที่อยู่ที่แจ้งไว้ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ และไม่มีการติดต่อประสานงานใดๆ กลับมา ทางออกต้องรณรงค์เรื่องการติดต่อเผยแพร่ในลูกค้าให้มากขึ้น
ส่วนการขายยกล็อตโครงการบ้านเอื้ออาทรขณะนี้ ยังไม่มีอะไรเพิ่มเติม เนื่องจากขายให้หน่วยงานราชการ ซึ่งจะต้องพิจารณาขออนุมัติงบประมาณมาซื้อ ส่วนใหญ่ก็ต้องใช้เวลาในการพิจารณา ล่าสุดที่ได้มีการเจรจาเพื่อขายให้กับตำรวจก็ติดเรื่องของการเสนองบประมาณ จึงต้องรอไปก่อน อย่างไรก็ดี ก็ยังมีการเจรจากันอยู่ตลอดเวลา หากลูกค้าสรุปได้เรื่องงบประมาณก็จะดำเนินการต่อทันที
นอกจากนี้ในส่วนของการขายโครงการอาคารสูงจังหวัดสมุทรปราการให้กับทางหน่วยงานท้องถิ่นของจังหวัดขณะนี้ต้องชะลอการเจรจาไว้ก่อน เนื่องจากมีการเลือกตั้งท้องถิ่น ต้องรอผลของการเลือกตั้งออกมาก่อนแล้วจึงจะมีการเจรจาการขายอาคารต่อไป อย่างไรก็ดีคาดว่าภายในสิ้นเดือนมีนาคมนี้จะสามารถรู้ผลของการเลือกตั้งท้องถิ่นแล้วจะทำการเจรจาอีกครั้ง ส่วนการขายที่ดินเปล่า ของการเคหะแห่งชาติ ในแปลงเล็กๆ ก็มีลูกค้าให้ความสนใจเข้ามาเจรจาขอซื้ออยู่อย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันปัญหาและอุปสรรคการขายโครงการบ้านเอื้ออาทร ของการเคหะแห่งชาติ ในเขตกรุงเทพมหานคร ไม่มีปัญหาเพราะโครงการใน กทม. ขายหมดแล้ว จะมีปัญหาในย่านปริมณฑลบ้างเล็กน้อย แต่การเคหะฯก็ปรับแผนมาเป็นการให้เช่าแทน
ได้ให้เวลาลูกค้ากลุ่มดังกล่าวจนถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2556 เท่านั้นแต่ก็ยังไม่เป็นไปตามเป้า เมื่อครบกำหนดระยะเวลา จากนั้นเดือนเมษายน 2556 จะพิจารณาว่าธนาคารที่ร่วมโครงการจะปล่อยกู้ให้กับลูกบ้านโครงการบ้านเอื้ออาทรโดยใช้แคมเปญอะไรบ้างที่จูงใจการโอน อาทิ ดอกเบี้ยต่ำๆฯลฯ"
สำหรับสาเหตุที่ทำให้การโอนกรรมสิทธิ์ของลูกบ้านที่อยู่มาครบ 5 ปีไม่เป็นไปตามเป้าหมายนั้นมีสาเหตุหลัก 3 ประการคือ
1. ภาวะค่าใช้จ่ายในการโอนของลูกค้าที่ไม่พร้อม
2. ในรายที่ต้องกู้เพิ่มเนื่องจากมีสิ่งปลูกสร้างเพิ่ม ต้องทำเรื่องกู้ใหม่ซึ่งทางธนาคารก็ต้องพิจารณาใหม่ ทำให้ลูกค้าสะดุด และ
3. ลูกค้าของการเคหะฯที่เป็นเจ้าของอาคาร ทั้งแนวราบ และอาคารชุด การเคหะฯไม่สามารถติดต่อลูกค้าไปตามที่อยู่ที่แจ้งไว้ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ และไม่มีการติดต่อประสานงานใดๆ กลับมา ทางออกต้องรณรงค์เรื่องการติดต่อเผยแพร่ในลูกค้าให้มากขึ้น
ส่วนการขายยกล็อตโครงการบ้านเอื้ออาทรขณะนี้ ยังไม่มีอะไรเพิ่มเติม เนื่องจากขายให้หน่วยงานราชการ ซึ่งจะต้องพิจารณาขออนุมัติงบประมาณมาซื้อ ส่วนใหญ่ก็ต้องใช้เวลาในการพิจารณา ล่าสุดที่ได้มีการเจรจาเพื่อขายให้กับตำรวจก็ติดเรื่องของการเสนองบประมาณ จึงต้องรอไปก่อน อย่างไรก็ดี ก็ยังมีการเจรจากันอยู่ตลอดเวลา หากลูกค้าสรุปได้เรื่องงบประมาณก็จะดำเนินการต่อทันที
นอกจากนี้ในส่วนของการขายโครงการอาคารสูงจังหวัดสมุทรปราการให้กับทางหน่วยงานท้องถิ่นของจังหวัดขณะนี้ต้องชะลอการเจรจาไว้ก่อน เนื่องจากมีการเลือกตั้งท้องถิ่น ต้องรอผลของการเลือกตั้งออกมาก่อนแล้วจึงจะมีการเจรจาการขายอาคารต่อไป อย่างไรก็ดีคาดว่าภายในสิ้นเดือนมีนาคมนี้จะสามารถรู้ผลของการเลือกตั้งท้องถิ่นแล้วจะทำการเจรจาอีกครั้ง ส่วนการขายที่ดินเปล่า ของการเคหะแห่งชาติ ในแปลงเล็กๆ ก็มีลูกค้าให้ความสนใจเข้ามาเจรจาขอซื้ออยู่อย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันปัญหาและอุปสรรคการขายโครงการบ้านเอื้ออาทร ของการเคหะแห่งชาติ ในเขตกรุงเทพมหานคร ไม่มีปัญหาเพราะโครงการใน กทม. ขายหมดแล้ว จะมีปัญหาในย่านปริมณฑลบ้างเล็กน้อย แต่การเคหะฯก็ปรับแผนมาเป็นการให้เช่าแทน
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 33 ฉบับที่ 2,831
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น