เป็นข่าวเมื่อวันที่ วันที่ 2 กันยายน 2552 03:00
นายภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (1 ก.ย.) พิจารณาข้อเสนอของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เรื่องการลดหย่อนค่าจดทะเบียนโอน ค่าจดจำนอง ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนอาคารชุด ให้แก่ผู้ซื้อที่อยู่อาศัยในโครงการบ้านเอื้ออาทร และการลดหย่อนภาษีตามมาตรการภาษีเพื่อช่วยเหลือธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
อย่างไรก็ตาม ครม.มีมติ "ไม่" เห็นชอบเกี่ยวกับข้อเสนอการยกเว้นกฎกระทรวง สำหรับการจดทะเบียนอาคารชุดบ้านเอื้ออาทรและการลดค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนและนิติกรรมโอนขายบ้านเอื้ออาทร
"ครม.ไม่เห็นชอบกับข้อเสนอใน 2 ข้อแรกที่กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เสนอมา ส่วนประเด็นที่เสนอให้กระทรวงการคลังทบทวนหลักเกณฑ์ และวิธีการลดหย่อนภาษีดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัย เพื่อให้ผู้ซื้อที่อยู่อาศัยจากการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ได้รับสิทธิลดหย่อนทางภาษีและยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้ที่ซื้ออสังหาริมทรัพย์ ที่ไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อนจากการเคหะแห่งชาติ (กคช.) จำนวน 3 แสนบาทนั้น กระทรวงการคลังไม่เห็นด้วย เพราะผู้ที่ซื้อบ้านเอื้ออาทรส่วนใหญ่ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เพราะมีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษีแต่อย่างใด” นายภูมินทร์กล่าว
ทั้งนี้ รายละเอียดข้อเสนอที่กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เสนอให้ ครม.พิจารณา ได้แก่ 1.ให้ยกเว้นในกฎกระทรวงสำหรับการจดทะเบียนอาคารชุดของโครงการบ้านเอื้ออาทร 2.ให้ชำระค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนอาคารชุดในอัตราเดิม การลดหย่อนค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมโอนขายหรือจำนองบ้าน พร้อมที่ดิน ห้องชุด สำหรับโครงการบ้านเอื้ออาทรในอัตรา 0.01%
และ 3.ให้กระทรวงการคลังทบทวนหลักเกณฑ์และวิธีการลดหย่อนภาษีดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัย เพื่อให้ผู้ซื้อที่อยู่อาศัยจาก กคช.ได้รับสิทธิลดหย่อนทางภาษีและยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้ที่ซื้ออสังหาริมทรัพย์ ที่ไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อนจากการเคหะแห่งชาติ จำนวน 3 แสนบาท กรณีโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2552 ตามมาตรการภาษีเพื่อช่วยเหลือธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
รายงานข่าวระบุ ตั้งแต่ปี 2546-ปัจจุบัน กคช.ได้ทำสัญญาซื้อขายบ้านเอื้ออาทรกับผู้ซื้อแล้ว โดยเป็นการอนุมัติสินเชื่อและมีการส่งมอบอาคารแล้ว 210,393 หน่วย แบ่งเป็นการจ่ายเงินสด 1,573 หน่วย อนุมัติสินเชื่อแล้ว 66,543 หน่วย เป็นการเช่าซื้อโดยตรงกับ กคช.จำนวน 19,108 หน่วย เช่าซื้อกับสหกรณ์ยูเนียนจำนวน 89,051 หน่วย และเป็นการส่งมอบอาคารให้ผู้ได้สิทธิแล้ว 87,109 หน่วย
นายภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (1 ก.ย.) พิจารณาข้อเสนอของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เรื่องการลดหย่อนค่าจดทะเบียนโอน ค่าจดจำนอง ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนอาคารชุด ให้แก่ผู้ซื้อที่อยู่อาศัยในโครงการบ้านเอื้ออาทร และการลดหย่อนภาษีตามมาตรการภาษีเพื่อช่วยเหลือธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
อย่างไรก็ตาม ครม.มีมติ "ไม่" เห็นชอบเกี่ยวกับข้อเสนอการยกเว้นกฎกระทรวง สำหรับการจดทะเบียนอาคารชุดบ้านเอื้ออาทรและการลดค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนและนิติกรรมโอนขายบ้านเอื้ออาทร
"ครม.ไม่เห็นชอบกับข้อเสนอใน 2 ข้อแรกที่กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เสนอมา ส่วนประเด็นที่เสนอให้กระทรวงการคลังทบทวนหลักเกณฑ์ และวิธีการลดหย่อนภาษีดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัย เพื่อให้ผู้ซื้อที่อยู่อาศัยจากการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ได้รับสิทธิลดหย่อนทางภาษีและยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้ที่ซื้ออสังหาริมทรัพย์ ที่ไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อนจากการเคหะแห่งชาติ (กคช.) จำนวน 3 แสนบาทนั้น กระทรวงการคลังไม่เห็นด้วย เพราะผู้ที่ซื้อบ้านเอื้ออาทรส่วนใหญ่ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เพราะมีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษีแต่อย่างใด” นายภูมินทร์กล่าว
ทั้งนี้ รายละเอียดข้อเสนอที่กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เสนอให้ ครม.พิจารณา ได้แก่ 1.ให้ยกเว้นในกฎกระทรวงสำหรับการจดทะเบียนอาคารชุดของโครงการบ้านเอื้ออาทร 2.ให้ชำระค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนอาคารชุดในอัตราเดิม การลดหย่อนค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมโอนขายหรือจำนองบ้าน พร้อมที่ดิน ห้องชุด สำหรับโครงการบ้านเอื้ออาทรในอัตรา 0.01%
และ 3.ให้กระทรวงการคลังทบทวนหลักเกณฑ์และวิธีการลดหย่อนภาษีดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัย เพื่อให้ผู้ซื้อที่อยู่อาศัยจาก กคช.ได้รับสิทธิลดหย่อนทางภาษีและยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้ที่ซื้ออสังหาริมทรัพย์ ที่ไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อนจากการเคหะแห่งชาติ จำนวน 3 แสนบาท กรณีโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2552 ตามมาตรการภาษีเพื่อช่วยเหลือธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
รายงานข่าวระบุ ตั้งแต่ปี 2546-ปัจจุบัน กคช.ได้ทำสัญญาซื้อขายบ้านเอื้ออาทรกับผู้ซื้อแล้ว โดยเป็นการอนุมัติสินเชื่อและมีการส่งมอบอาคารแล้ว 210,393 หน่วย แบ่งเป็นการจ่ายเงินสด 1,573 หน่วย อนุมัติสินเชื่อแล้ว 66,543 หน่วย เป็นการเช่าซื้อโดยตรงกับ กคช.จำนวน 19,108 หน่วย เช่าซื้อกับสหกรณ์ยูเนียนจำนวน 89,051 หน่วย และเป็นการส่งมอบอาคารให้ผู้ได้สิทธิแล้ว 87,109 หน่วย
ที่่มา : เอื้ออาทร