*ข่าวเก่า**
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ตั้งข้อสังเกตต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 20 พ.ย. โดยเสนอให้การเคหะแห่งชาติ (กคช.) เร่งรัดพัฒนาโครงการบ้านเอื้ออาทรโครงการใหม่ในพื้นที่ที่มีศักยภาพ และเร่งทำตลาดขายบ้านเอื้ออาทรที่เหลืออยู่ เพื่อให้กคช.มีรายได้จากธุรกิจหลักและลดภาระเงินต้นและดอกเบี้ยที่มีอยู่
ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง ระบุว่ากคช.มีรายได้หลักจากโครงการบ้านเอื้ออาทร ซึ่ง กคช.สร้างบ้านเอื้ออาทร2.81 แสนหน่วย และได้ทำสัญญาซื้อขายไปแล้ว 2.44 แสนหน่วย หรือ82.72% ของโครงการ คงเหลือบ้านเอื้ออาทรที่ยังไม่ได้ทำสัญญาอีก 3.73 หมื่นหน่วยทำให้ กคช.มีความเสี่ยงที่อาจมีรายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายประจำและดอกเบี้ยในอนาคต
ด้านนายภักดีหาญส์ หิมะทองคำรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ครม.มีมติเห็นชอบให้ กคช.กู้เงินประจำปีงบประมาณ 2556 จำนวน1.74 หมื่นล้านบาทประกอบด้วย เงินกู้เพื่อการลงทุน1,700 ล้านบาทและเงินกู้เพื่อชำระหนี้เดิม1.57 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ2556
แหล่งข่าวจาก กคช. เปิดเผยว่ากคช.อยู่ระหว่างเสนอแผนการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุดที่ 1 ระหว่างปี 2556-2558 ซึ่งส่วนหนึ่งจะนำเอาที่ดินบ้านเอื้ออาทรที่เคยชะลอโครงการไว้มาดำเนินการต่อรวมทั้งสิ้น 89 โครงการจำนวน 5 หมื่นหน่วยใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 4.3 หมื่นล้านบาทประกอบด้วย4 โครงการหลัก ได้แก่ โครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชน รองรับผู้มีรายได้น้อยและปานกลางรายได้ต่อครัวเรือนไม่เกิน 5 หมื่นบาท41 โครงการ จำนวน 4.3 หมื่นหน่วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น